Thai News
สุดสลด !! หนุ่มหน้าตาดีขับรถชนท้าย 18 ล้อเสียชีวิต แฟนสาวเผยทั้งน้ำตา สาเหตุที่ทุกอย่างจบลงแบบนี้ (ทุกครั้งที่เราจะก้าวเท้าออกจากบ้าน จะมั่นใจได้แค่ไหนว่าจะได้กลับมาอีก)
Tuesday, September 22, 2015ชอบประโยคนี้นะ!! " ทุกครั้งที่เราจะก้าวเท้าออกจากบ้าน จะมั่นใจได้แค่ไหนว่าจะได้กลับมาอีก" จัดว่าเป็นประโยคที่หดหู่ ทำให้กุไม่ประมาท..
เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 22 กันยายน ร.ต.ท.สวิช สืบเพ็ง พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีรถยนต์เก๋งพุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อมีผู้เสียชีวิต บริเวณบนสะพานข้ามแยกคลองประปา ถนนแจ้งวัฒนะด้านขาเข้า จึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งลักษณะแต่งซิ่งยี่ห้อโตโยต้ารุ่นยาริส สีน้ำตาล ทะเบียน ฉต 191 กทม สภาพรถพังเสียหายยับเยิน ใกล้กันพบร่างของนายพรโชค สังข์ทอง อายุ 32 ปี ผู้ขับขี่อยู่บ้านเลขที่ 46/14 หมู่ 4 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นอนเสียชีวิตที่เกิดเหตุ โดยพบรอยขูดบริเวณขอบทางและพื้นถนนเป็นทางยาว
ส่วนคู่กรณีเป็นรถบรรทุกพ่วง18ล้อยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียนส่วนหัว 85-0301 นครปฐม ส่วนพ่วง ทะเบียน 88-7754 นครปฐม สภาพรถด้านท้ายมุมขวาส่วนพ่วงมีร่องรอยการถูกชนได้รับความเสียหายโดยยังมีชิ้นส่วนของรถยนต์เก๋งติดคาอยู่ ซึ่งมีนายตี๋เจียไพบูลย์เป็นผู้ขับยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน น.ส.สตรีรัตน์ ปานประสิทธิ์ แฟนสาวผู้เสียชีวิต ซึ่งทราบเหตุตามมาทีหลัง เล่าว่านายพรโชคกลับจากดื่มสุราที่ร้านอาหารในเมืองทองธานี เมื่อถึงบ้านนายพรโชคมีปากเสียงกับมารดา จึงขับรถออกจากบ้านเพื่อจะย้อนกลับไปพักที่คอนโดฯในเมืองทองธานี ต่อมานายพรโชคได้โทรมาหาตนเองให้ตามออกมาเพื่อไปพักด้วยกัน จึงขับรถติดตามไปภายหลังแต่กลับไม่พบนายพรโชคที่ห้องพัก สอบถามเพื่อนที่อยู่ที่ร้านอาหารบอกว่านายพรโชคออกไปสักพักหนึ่งแล้ว จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าแฟนหนุ่มประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต สำหรับแฟนเป็นคนชอบดื่มสุราและขับรถเร็ว แต่ก็ยังไม่ทราบเพราะเหตุใดแฟนถึงขับรถยนต์ออกมาในเส้นทางดังกล่าว ทั้งที่นัดหมายกันไว้ที่คอนโดฯ
ขณะเดียวกันด้านนายตี๋ ผู้ขับรถบรรทุกให้การว่า ได้ขับรถบรรทุกทรายมาเต็มคันจาก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เพื่อไปส่งให้ลูกค้าย่านถนนรามอินทรา เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งขับรถขึ้นสะพานมาตามปกติ จู่ๆ ก็ถูกรถยนต์เก๋งพุ่งชนท้ายเข้าอย่างเต็มแรง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า ในเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพร่องรอยในที่เกิดเหตุไว้พร้อมทั้งสอบสวนผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงเบื้องต้นซึ่งให้การว่ารถยนต์เก๋งนั้นเป็นผู้ที่ขับมาพุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วงเองแต่อย่างไรก็ตามจะต้องนำตัวผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงนั้นไปสอบสวนเพิ่มเติมต่ออีกครั้งพร้อมทั้งจะทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บนสะพานเพื่อหาข้อเท็จจริงถึงการเกิดเหตุต่อไป
ที่มา:http://www.bigza.com/news-178913
0 comments