Thai News
ไม่ต้องเก่งก็ทำได้!! 9 เทคนิคเช็กมือถือ หมดห่วงเครื่องย้อมแมว!!
Tuesday, September 22, 2015จากความนิยมใช้งานสมาร์ทโฟนที่แพร่หลายอย่างมากในปัจจุบัน ส่งผลให้ธุรกิจการซื้อ-ขายมือถือคึกคักตามไปด้วยไม่เฉพาะแต่เพียงหัวเมืองหรือจังหวัดใหญ่ เพราะในต่างจังหวัดก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน!
หากคุณเป็นผู้มีรายได้ ซึ่งสามารถเลือกซื้อมือถือในรุ่นและราคาต่างๆ ได้จากผู้จำหน่ายหรือร้านค้าชั้นนำทั่วไป ก็อาจจะไม่มีปัญหาให้ต้องตรวจสอบรายละเอียดของสินค้ากันมากนัก เพราะมีการรับประกันที่เป็นมาตรฐานสากล แต่หากคุณมีญาติหรือเพื่อนที่ไม่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีสมัยใหม่ แน่นอนว่า…รวมถึงการเลือกและซื้อหาสมาร์ทโฟน คุณจะมีวิธีแนะนำพวกเขาอย่างไร?
ถ้านึกไม่ออก… เราได้รวบรวมเทคนิคเกี่ยวกับการตรวจเช็กมือถือมาฝาก สำหรับผู้ที่กังวลว่าจะได้รับสินค้าที่ไม่มีมาตรฐาน หรือเป็นเครื่องที่ผ่านมาดัดแปลงมาก่อน ด้วยเทคนิคชั้นเซียนที่รับรองว่าทุกคนสามารถทำได้ เพื่อป้องกันปัญหาเครื่องย้อมแมว!!!
ว่าแต่จะมีวิธีแบบไหน ขั้นตอนอย่างไร ลองสังเกตไปพร้อมๆ กัน!
1. เช็กสภาพกล่อง
โดยปกติเมื่อได้รับเครื่องมา กล่องบรรจุภัณฑ์ต้องอยู่ในสภาพที่ดีไม่มีรอยบุบหรือขาด ซีลพลาสติกอย่างสวยงาม และสติกเกอร์ที่ใช้รับประกันต้องไม่ขาด
2. ตรวจอุปกรณ์ภายในกล่อง
อุปกรณ์ภายในกล่องต้องอยู่ครบถ้วนตามที่ข้างกล่องแจ้ง และต้องดูใหม่หรือยังไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน รวมถึงต้องมีคู่มือ และใบรับประกันต่างๆ มาพร้อมในกล่อง
3. สติกเกอร์กันรอยหน้าจอ ต้องอยู่!
เมื่อซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ จะสังเกตว่าต้องมีสติกเกอร์หรือฟิล์มกันรอยติดมาด้วย ซึ่งสติกเกอร์ดังกล่าวควรอยู่ในสภาพที่ไม่มีฟองอากาศหรือฝุ่นติดอยู่ภายในมากเกินจนผิดปกติ
4. สภาพเครื่องต้องใหม่
โทรศัพท์เครื่องใหม่จะต้องไม่มีรอยบุบหรือรอยขีดข่วนใดๆ ทั้งบริเวณรอบตัวเครื่องและหน้าจอ รวมไปถึงปุ่มโฮม (ถ้ามี) และปุ่มด้านข้างตัวเครื่องสมาร์ทโฟน หากพบว่ามีรอยใดๆ ควรแจ้งพนักงานทันทีตั้งแต่ยังไม่เสร็จสิ้นการซื้อขาย
5. เช็กหน้าจอ
เมื่อตรวจสอบความเรียบร้อยที่ภายนอกเครื่องแล้ว ควรเปิดเครื่องทันที เพื่อเช็กความผิดปกติของหน้าจอหรือที่เรียกว่า Dead Pixel ว่ามีจุดสีที่ผิดปกติหรือไม่
6. ฟังก์ชั่นต้องพร้อมใช้!
ขั้นตอนหลังจากเปิดเครื่องคือเช็กการใช้งานด้านอื่น เช่น ระบบสั่น กล้องหน้า กล้องหลัง ลำโพง การทำงานของเซ็นเซอร์ต่างๆ และการใช้งานด้านอื่นๆ
7. ตรวจสอบการใช้งาน
หลังเปิดเครื่องแล้วให้ทดลองใส่ซิม แล้วทำการโทรเข้า-ออก เพื่อทดสอบสัญญาณ รวมถึงไมค์เสียงและลำโพงสนทนา ว่าสามารถใช้งานได้ดีและไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด
8. เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้หรือไม่?
เพราะมือถือในปัจจุบันจะต้องรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วย ดังนั้น…การตรวจสอบว่าเครื่องสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ดีหรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม หากสามารถเช็กการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth ว่าสามารถรับสัญญาณได้ปกติหรือไม่ ก็จะยิ่งเป็นการดี
9. IMEI ตรงหรือเปล่า?
เชื่อว่าเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้ามอย่างแน่นอน สำหรับการตรวจสอบหมายเลข IMEI โดยมือถือจะต้องมีเลขตรงที่ระบุไว้ที่กล่อง สามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ เพียงกด *#06# มือถือก็จะแสดงหมายเลขดังกล่าวทันที หากพบว่าไม่ตรงกัน…ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ขายหรือร้านค้าทันที
เสียเงินซื้อสินค้าทั้งที ก็ควรตรวจสอบให้ถี่ถ้วนตั้งแต่ตอนซื้อ อย่ารอให้กลับไปใช้งานแล้วถึงพบความผิดปกติ จะได้ไม่ต้องอารมณ์เสียกับของใหม่ที่ไม่ได้มาตรฐาน!!!
ขอขอบคุณที่มา : www.thairath.co.th/content/527132
0 comments