Thai News
ระวัง!! ตร.เอาจริง "รถควันดำ" จับจริง ปรับจริง ขอนแก่นโดนกันระนาว!!
Saturday, September 19, 2015ตร.ขอนแก่น จับ-ปรับจริง! รถควันดำรอบเมือง เผย จนท. ทนสูดดมมลพิษต่อเนื่องทุกวัน ระบุ ตั้งสกัดจับ เช้า-บ่าย ปราบปรามมลพิษเขตชุมชนเมือง ขณะที่รถบางคัน ค่ามลพิษสูงกว่าร้อยละ 98 จับปรับอัตราโทษสูงสุด 500 บ.
วันที่ 19 ก.ย. 58 พ.ต.ท.จิรวิทย์ ปานยิ้ม รอง ผกก.(จร.) สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ทำการตั้งจุดตรวจจับรถควันดำ ที่บริเวณหลัก กม.ที่ 12-13 ถ.เส้นทางสายขอนแก่น-กาฬสินธุ์ ฝั่งขาล่อง พื้นที่ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อกวดขันการกระทำความผิดตาม พรบ.จราจรและขนส่ง ในฐานความผิด นำรถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง (ควันดำ) โดยทำการตรวจสอบรถยนต์ทุกคันที่ขับขี่มาในเส้นทางดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า จากการเรียกตรวจรถยนต์เพียง 5 นาทีต่อหนึ่งคัน โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์กระบะ และรถยนต์บรรทุก ตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป จนถึง รถพ่วงเทรลเลอร์ 18 ล้อ พบกระทำความผิดตามฐานความผิดดังกล่าว เป็นจำนวนมาก
ด้าน พ.ต.ท.จิรวิทย์ กล่าวว่า การคุมเข้มในฐานความผิดดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามมาตรการป้องกันปราบปราม และตรวจสอบมลพิษ ในเขตชุมชนเมือง ซึ่งพบว่า ปัจจุบันปริมาณรถยนต์ในประเภทต่างๆ ในเขตเมืองขอนแก่นมีมากขึ้น เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะตำรวจจราจร และอาสาสมัครจราจร แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ ที่จะต้องให้บริการสาธารณะในด้านต่างๆ จะต้องทนสูดดมมลพิษอย่างต่อเนื่องทุกวัน จึงได้ทำการจัดตั้งชุดเฉพาะกิจตรวจจับควันดำขึ้น โดยแบ่งกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร มาประจำในจุดดังกล่าวทั้งหมด 10 นาย มีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร คอยกำกับควบคุมดูแล และให้มีการตั้งจุดตรวจ 4 มุมเมือง ในช่วงเช้าและช่วงบ่ายทุกวัน
ขณะที่ การเรียกตรวจสอบรถยนต์กว่า 50 คัน พบว่า มีการกระทำความผิดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดมากถึงร้อยละ 80 ซึ่งกฎหมายระบุชัดเจนว่า จะต้องไม่ปล่อยมลพิษออกมาเกินกว่าค่ามาตรฐานของเครื่องตรวจวัดควันดำในอัตราร้อยละ 50 แต่การตรวจสอบนั้นผ่อนผันให้ที่ร้อยละ 60 เพราะส่วนใหญ่เป็นรถที่ใช้ในภาคการเกษตรและการขนส่ง แต่ก็ยังคงพบว่ามีการกระทำผิดที่สูงมาก บางคันจากการตรวจสอบด้วยเครื่องวัด สูงถึงร้อยละ 98 จึงจำเป็นจะต้องจับปรับในอัตราสูงสุด รายละ 500 บาท พร้อมทั้งการตักเตือนให้นำกลับไปตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ ทั้งการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือตรวจเช็กระบบเครื่องยนต์ต่างๆ เพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำซ้อน
ที่มา:http://www.bigza.com/news-178758
0 comments