Inernational News
เชื้อสงครามโลกครั้งที่ 3 ระอุ!!! หวั่น "มหาอำนาจ"งัดนิวเคลียร์ซัดกันเละ -"เผ่าพันธุ์มนุษย์"ส่อสะเทือน
Sunday, October 04, 2015คอลัมน์ รื้อสร้าง/โดย...วันเฉลิม จันทรากุล
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า เชื้อไฟสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้เปิดฉากขึ้นมาแล้วจริงๆ หลังประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สั่ง "กองทัพรัสเซีย" กรีธาทัพเข้าซีเรีย
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อ้างว่าเพื่อจัดการกับ "กลุ่มไอเอส" แต่เอาจริงๆ ปรากฏว่า กลุ่มที่โดนโจมตี กลับกลายเป็นกลุ่มต่อต้านประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ฟูมฟักโดยสหรัฐฯ และพันธมิตรฯ เช่น การโจมตีย่านเมืองฮานาและเมืองฮอมส์ ของซีเรีย ที่รัสเซียอ้างว่า เป็นของ IS แต่มีรายงานพื้นที่เหล่านั้น ล้วนเป็นของ "กบฏ" ซึ่งเป็นลูกรักของสหรัฐฯและพันธมิตร
ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เป้าหมายที่แท้จริงคือ การเข้าช่วย "อัสซาด" หลังจากพลาดท่าให้กับ "กลุ่มต่อต้าน" และอาจจะถูกโค่นในที่สุด
การเข้ามาช่วยของ "รัสเซีย" ช่วยให้สถานการณ์พลิกผัน จากที่เสียเปรียบ กลับมาเป็นการส่อได้เปรียบขึ้นทันที
ทำให้ "สหรัฐฯ และพันธมิตร" เช่น ตุรกี ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน เยเมน บาห์เรน ที่ลงทุนลงแรงไปเยอะ ต้องออกอาการควันออกหู และได้ประกาศให้ "รัสเซีย"ยุติปฏิบัติการทางทหารโจมตี "กลุ่มต่อต้านฯ"ทันที
แต่ดูเหมือนว่า "รัสเซีย" ไม่สนใจเสียงคัดค้าน กลับเดินหน้าถล่มฐานที่มั่นของ "กลุ่มกบฏ" ต่อไป โดยประกาศว่า จะใช้เวลาในการปฏิบัติการต่อจากนี้อีก 3-4 เดือน
และคาดว่าการปฏิบัติโจมตีจะรุนแรงหนักขึ้นไปอีก เพราะมีรายงานว่า "อิหร่าน" ได้ส่งทหารจำนวนมากเข้า "ซีเรีย" ล่วงหน้ามาก่อนแล้ว พร้อมกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ จากเลบานอน นักรบชีฮะห์ และทหารฝ่าย"รัฐบาลอัสซาด" เพื่อร่วมปฎิบัติการครั้งใหญ่ โดย "รัสเซีย" จะช่วยถล่มศัตรูทางอากาศ
ดังนั้นดูแล้ว งานนี้ "ไม่ชนะคงไม่เลิก" เพราะการถอยหมายถึงยุทธศาสตร์ด่านสุดท้ายของ "รัสเซีย" คือ อิหร่าน
รวมถึงเครือข่ายต่างๆของอิหร่าน เช่น กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในเลบานอน ,"กลุ่มฮามาส"ในปาเลสไตน์ และ กบฏฮูตี ในเยเมน คงถูกจัดการไม่มีเหลือ
ในขณะที่ "แนวรบด้านยูเครน" รัสเซียกำลังถูกสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป หรืออียู คว่ำบาตร และ พร้อมจะมีการใช้กำลังทหารเข้าดำเนินการได้ตลอดเวลา
ฉะนั้นแล้ว สถานการณ์นี้รัสเซีย คงยอมไม่ได้ และการมาเปิดพื้นที่สงครามในซีเรีย ก็จะเป็นการช่วยสร้างการต่อรอง และ "ตลบหลัง" สหรัฐฯไปในตัว
เมื่อ "รัสเซีย" ลงมาเป็นเจ้าภาพใหญ่อย่างนี้ ก็จะทำให้อิหร่าน ซีเรีย และแนวร่วมต่างๆ ก็จะมั่นใจมากขึ้น และพร้อมลุยเต็มที่
และหากรัสเซียยอมปล่อย "อาวุธหนัก" เข้าช่วยเหลือเครือข่ายต่างๆด้วย คราวนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ คงได้ขนหัวลุกกันแน่ เพราะนั่นจะหมายถึงการขยายพื้นที่สู้รบจะกว้างขึ้น ไม่เฉพาะในซีเรีย แต่จะกระจายไปยังอิรัก เยเมน ปาเลสไตน์ หรือพื้นที่อื่นๆ ด้วย
ในขณะที่ "ฝ่ายสหรัฐฯ และเหล่าพันธมิตร" ก็คงยอมไม่ได้เช่นกัน เพราะหาก "รัสเซียและอิหร่าน" ยึดพื้นที่ซีเรียได้อย่างเด็ดขาด ก็จะมีอันตรายอย่างใหญ่หลวง ทั้งต่อ "ผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ และความมั่นคงด้านทหาร" โดยเฉพาะ "อิสราเอล" และ ซาอุดีอารเบีย อาจจะถูกยึดครองได้ง่ายๆ
และมิติที่ลึกลงไปอีกคือ พื้นที่เหล่านี้ เป็นพื้นที่การขยายอิทธิพลของ 2 นิกาย คือ ซุนนี กับ ชีอะห์ ดังนั้นความขัดแย้งครั้งนี้ แม้ในที่สุด "สหรัฐฯ และรัสเซีย" อาจจะเจรจายอมกัน แต่ "ซาอุดิอาระเบียกับอิหร่าน" คงยากที่จะยินยอมกัน คาดว่าความขัดแย้งจะยังคงดำเนินต่อไป
"สงครามคราวนี้" อาจจะขยายวงกว้างไปไกลถึง "ทะเลจีนใต้" ก็เป็นได้ เพราะ"จีน" ถือเป็นพันธมิตรที่สำคัญของรัสเซียและมีความพร้อมอยู่เต็มที่ในการสู้รบ
ในขณะที่ "ชาติเอเชีย" หลายชาติที่ไม่พึงพอใจจีนต่อกรณีความขัดแย้งเรื่องดินแดนในทะเลจีนใต้อยู่แล้ว ซึ่งล้วนเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ก็อาจจะถูกลากเข้าลุย "จีน"ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะล่าสุด "ญี่ปุ่น"ได้ผ่านกฎหมายความมั่นคง เพื่อที่ให้กองทหารทำการสู้รบในต่างแดนได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว
และสิ่งที่น่าพิจารณาคือ "สงครามครั้งนี้" เป็นการเผชิญหน้าโดยตรงของ "สหรัฐฯ และรัสเซีย" นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งในครั้งนั้นเป็นแค่สงครามเย็นและการเผชิญจะเป็นลักษณะของ "สงครามตัวแทน(Proxy War)"เท่านั้น
ดังนั้นหากเกิดสงครามขึ้นมา ยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 ประเทศ ต้องงัดของใหญ่คือ "อาวุธนิวเคลียร์"มาใส่กันแน่
และด้วยความรุนแรงของอาวุธ และ การขยายตัวของพื้นที่ของสงคราม น่าห่วงว่าจะกระทบต่อการดำรงอยู่ของ"เผ่าพันธุ์มนุษย์"ในที่สุดหรือไม่!!!
ขอคุณภาพจาก
https://www.rt.com/news/317590-russian-aviation-isis-targets/
https://www.rt.com/op-edge/317611-isis-syria-russia-us/
0 comments