บางสะพานฟื้นวัฒนธรรมร่อนทอง สืบทอดตำนานดาบฟ้าฟื้นขุนแผน-ชูเป็นแหล่งท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 21 ต.ค. นายกฤษดา หมวดน้อย ประธานสภาวัฒนธรรมบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า สภาวัฒนธรรมร่วมกับนายศักดิ์ดา เอกพัฒน์ศิริ นายกอบต.ร่อนทอง มีแนวคิดดึงวิถีชีวิตการร่อนทองของคนตำบลร่อนทอง ที่เป็นภูมิปัญญาสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนเป็นเวลาเกือบ 200 ปี ถ่ายทอดผ่านชีวิตจริง รุ่นต่อรุ่น จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นวัฒนธรรมของตำบลร่อนทองที่ควรนำมาเสนอให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่แปลก และน่าสนใจให้ชาวไทยและชาวต่างชาติได้เข้าชม

ประธานสภาวัฒนธรรมบางสะพาน กล่าวต่อว่า ทองบางสะพาน ถือว่าเป็นทองคำที่ดีที่สุดและมีความพุทธคุณอยู่ในตัว ในอดีตปรากฏหลักฐานในพงศาวดาร พระสมัยของพระเจ้าอยู่หัวพระบรมโกษฐ์ ใน พ.ศ.2289-2291 ได้เกณฑ์ไพร่พลจำนวน 2 พันคน มาร่อนทองที่บางสะพาน ได้ทองคำ 90 ชั่ง น้ำหนัก 54 กิโลกรัม หรือน้ำหนักทอง 3,600 บาท นำไปหุ้มยอดมณฑปพระพุทธบาทสระบุรี นอกจากนี้ ในวรรณคดีขุนช้าง ขุนแผน ได้กล่าวถึงการนำทองบางสะพานไปทำ “ดาบฟ้าฟื้น” ของขุนแผน ความตอนหนึ่งระบุว่า “เอาไม้ระงับสรรพยามาทำฝัก ประสมผงลงรักให้ผิวผ่อง กาบหุ้มต้นปลายลายจำลอง ทำด้วยทองถ้วนบาทชาติ” บางตะพานซึ่งในปัจจุบันเรียกว่าบางสะพาน ดาบฟ้าฟื้นของของขุนแผนนั้นถือเป็นดาบอันศักดิ์สิทธิ์คู่กาย

นายกฤษดา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้เสนอที่ดิน 3 ไร่ ให้กับอบต.ร่อนทองใช้ในการปรับปรุงสถานที่ร่อนทอง เพื่อพัฒนาเป็นจุดชมวิถีชีวิตชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการขุดหลุมทองที่มีวัฒนธรรมมาตั้งแต่สมัยโบราณนำดินขึ้นมาใส่เลียงร่อนหาทอง การขุดหาทองในคลองบางสะพาน ซึ่งเชื่อว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะให้ความสนใจ อีกทั้งผู้สนใจยังสามารถเช่าเลียงไปร่อนหาทองด้วยตนเองได้ ซึ่งการนำเอาวัฒนธรรมร่อนทองมาเป็นจุดขาย จะไม่กระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ แต่กลับจะเพิ่มรายได้จากการบริการท่องเที่ยว การแสดงระบำร่อนทอง การจำหน่ายของผลไม้คลองลอยที่มีตลอดปี นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยว ชายทะเลบ้านกรูดหรือไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะทะลุได้ในวันเดียวกัน

ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1445407557

Unknown

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit. Aenean commodo ligula eget dolor Aenean massa.Aenean commodo ligula eget dolor Aenean massa.