Thai News
ขุมนรก! ช่วย 2 พี่น้อง แม่ปล่อยพ่อเลี้ยงทารุณสุดๆ เฆี่ยนตีเนื้อตัวแตก จับขัง แล้วยังมาอ้างหน้าด้านๆฟังถึงกับอึ้ง!
Saturday, October 31, 2015
'ปวีณา' เข้าช่วยเหลือ "2 พี่-น้อง" สุดระทม ถูก "แม่ใจร้าย" ปล่อย "พ่อเลี้ยง" เฆี่ยนตีเนื้อตัวแตกยับ จับขังอดข้าวอดน้ำในบ้าน เหมือนตกนรกทั้งเป็น เค้นสอบอ้างแค่สั่งสอนลูก ย้อนถามผิดตรงไหน
เมื่อ วันที่ 30 ต.ค. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อม พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยม ผกก. สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม รุดเข้าช่วยเหลือ ด.ช.หนึ่ง (นามสมมติ ) อายุ 7 ขวบ และด.ญ.นิด (นามสมมติ ) อายุ 5 ขวบ สองพี่น้องซึ่งถูกขังอยู่ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่งใน อ.สามพราน หลังพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเข้ามายังเพจเฟซบุ๊ก "มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี" ขอให้เข้าช่วยเหลือเด็กทั้งสองเนื่องจากการถูกแม่และพ่อเลี้ยงทุบตีเป็น ประจำทุกวัน บางครั้งที่พ่อเลี้ยงลงมือตี แม่เด็กก็ยังไม่สนใจช่วยลูก ซ้ำร้ายยังไม่ให้กินข้าวกินน้ำ กักขังให้อยู่แต่ในห้องตลอดเวลา ช่วงที่สองสามีภรรยาออกไปทำงานทั้งวัน
ภายหลังช่วยเด็กทั้งสองออกมา แล้วพบว่า ด.ช.หนึ่ง และด.ญ.นิด มีร่องรอยเขียวช้ำ เนื้อตัวแตกยับ จากการถูกทำร้ายทุบตี อยู่ในอาการหวาดกลัวและหิวโหย สอบถามชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นจึงทราบว่า แม่เด็กทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่งใกล้ ๆ ที่พัก แต่จะออกไปทำงานตอนเช้าและกลับมาตอนเย็น เวลาอารมณ์เสีย หรือ ลูกดื้อ ก็จะลงมือทุบตี ส่วนพ่อเลี้ยงก็จะทุบตีเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงพยายามช่วยกันห้ามปราม แต่ก็ไม่ฟังและไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือเด็กได้ เพราะสองสามีภรรยาจะแสดงความไม่พอใจตะโกนด่าทอ บางทีก็ตีลูกโชว์ต่อหน้าต่อตาอีกด้วย
จาก นั้นนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานนางเสาวนีย์ โขมพัตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครปฐมรับเด็กเข้ารับการดูแลฟื้นฟู สภาพจิตใจ รวมทั้งส่งตรวจร่างกาย เพื่อสอบป.วิอาญา ดำเนินคดีกับแม่และพ่อเลี้ยงโหดรายนี้เข้าข่ายกระทำผิดผิด พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก
โดยนางปวีณา กล่าวว่า ปัญหาเช่นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่มูลนิธิปวีณาฯ รับเรื่องราวร้องทุกข์ ซึ่งในแต่ละวันมีเรื่องร้องทุกข์ไม่ต่ำกว่า 40 -50 เรื่อง ต้องขอขอบคุณพลเมืองดีที่ช่วยกันดูแลสังคม หากพบเบาะแสเด็กถูกทำร้ายให้ช่วยแจ้งมายังมูลนิธิปวีณาฯด้วย
ที่มา:http://www.siamupdate.com/news-178191
0 comments