Thai News
ยิ่งกว่านิยาย "เสี่ยอู๊ด" จากเด็กบ้านนอกสู่เซียนพระ-พี่ชายเจ้าบุญทุ่ม-คนคุก ก่อนจบชีวิตเศร้า
Saturday, October 31, 2015
พลิกตำนานประวัติอันยอกย้อนยิ่งกว่านิยายของ "เสี่ยอู๊ด" หรือ"นายสิทธิกร บุญฉิม" จากเด็กบ้านนอกยากไร้ ความรู้เพียง ม.3 สู่เซียนพระชื่อดัง ขณะที่เป็นพี่ชายเจ้าบุญทุ่มของดาราหนุ่มหล่ออีกหลายคน กระทั่งเดินเข้าคุกเข้าตะรางถึง 5 ปี ก่อนออกมาเผชิญโลกครั้งใหม่ และจบชีวิตแสนเศร้าที่พิษณุโลก
นับว่าปิดตำนานอันยอกย้อนยิ่งกว่านิยายไปแล้ว สำหรับ "เสี่ยอู๊ด" หรือ "นายสิทธิกร บุญฉิม" อดีตเซียนพระชื่อดัง ซึ่งประวัติบอกว่าเขาเกิดเมื่อ วันที่ 3 เม.ย.2514 ที่ จ.ระยอง จบแคชั้น ม.3 แต่ไปประสบความสำเร็จเมื่อไปประกอบอาชีพค้าขายที่อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นเวลา 8 ปี และเป็นประธานบริษัท ไดมอนด์ ฮิลล์ จำกัด ซึ่งที่นั่นได้มีคนดึงเข้าสู่วงการพระเครื่อง และสร้างชื่อเสียงให้กับเขาในเวลาต่อมา โดยเฉพาะการสร้างเหรียญหลวงพ่อโสธรนามสกุล มีผู้คนร่วมทำบุญมากถึง 200 ล้านบาท ในระยะเวลาไม่ถึงเดือน
แต่ชีวิตต้องผลิกผันอีกครั้ง เมื่อปี 2550 เมื่อเจ้าตัวโดนฟ้องร้อง ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโฆษณาโดยใช้ข้อความให้เกิดความเข้าใจผิด ในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้า โดยใช้ข้อความเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ โดยไม่ได้รับพระบรมราชานุญาต, ร่วมกันใช้เครื่องหมายราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต และเลียนเครื่องหมายราชการให้ปรากฏที่วัตถุ หรือสินค้าใด ๆ จากกรณีโฆษณาเผยแพร่ว่า จัดสร้างพระเครื่องที่ใช้ชื่อว่า “พระสมเด็จเหนือหัว” โดยศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษาจำคุกเสี่ยอู๊ด เป็นเวลา 5 ปี และปรับ บริษัทไดมอนด์ ฮิลล์ จำกัด รวม 12,000 บาท พร้อมให้จำเลยทั้ง 2 ร่วมกันคืนเงินกับผู้เสียหาย ทั้ง 921 คน ที่เช่าพระสมเด็จเหนือหัว เป็นจำนวนเงิน 4,055,916 บาท จากนั้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2556 เสี่ยอู๊ด ก็ได้รับอิสรภาพอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ถูกจำขัง เสี่ยอู๊ดได้พยายามฆ่าตัวตายมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ปี 2553 โดยเจ้าตัวได้กินยานอนหลับเข้าไปเกินขนาดจนช็อคหมดสติ แต่ก็มีผู้คุมมาเห็นเสียก่อนจึงรอดมาได้ โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ผ่านโทรทัศน์ร่ายการหนึ่ง หลังพ้นโทษออกมาว่า
"ที่คิดฆ่าตัวตายตอนอยู่ในคุก โดยไม่รู้สึกบาป เพราะตนไม่เชื่อเรื่องบาปบุญแล้ว ไม่เชื่อว่านรกสวรรค์มีจริง ที่ฆ่าตัวตายเพราะไม่ต้องการผจญความทุกข์แล้ว กลับไปที่ ๆ เคยมา และตัดสินใจกินยานอนหลับชนิดที่รุนแรงที่สุด แต่ก็มีผู้คุมมาเห็น"
นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์สำหรับเสี่ยอู๊ดมาก ๆ ก็คือ เขาเคยตกเป็นข่าวสนิทสนมกับเหล่าศิลปิน-ดาราหนุ่มอยู่หลายต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ออย ธนา, นิว วงศกร, แทค ภรัณยู, บิ๊ก ภูชิสะ, โบกี้ จักรินทร์, ไผ่ พาทิศ แต่ที่เป็นกระแสฮือฮาที่สุดเห็นจะเป็นการออกมาพูดเรื่องความสัมพันธ์กับหนุ่ม ฟิล์ม รัฐภูมิ รวมทั้งทรัพย์สินต่างๆ ที่เคยให้กับดาราหนุ่ม
กระทั่งเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 58 เสี่ยอู๊ด ได้จบชีวิตตัวเองลง ที่โรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองพิษณุโลก พร้อมทิ้งจดหมาย ระบุถึง ความภูมิใจ และความเสียใจเชิงตัดพ้อว่า เคยช่วยผู้อื่นไว้มาก แต่ไม่เคยช่วยญาติพี่น้อง สุดท้ายได้รับผลตอบแทนที่ทำให้เสื่อมเสีย ไม่มีความดี และความจริงจากผู้ที่เคยช่วยเหลือไป นอกจากนี้ ยังสั่งเสียว่า หากเสียชีวิตที่พิษณุโลก ให้น้องชายขึ้นมาจัดการงานศพ โดยไม่ต้องทำพิธีใด ๆ
โดยเนื้อหาทั้งหมดที่จดหมายระบุ คือ
(ภูมิใจ) จากเด็กกำพร้ายากจน มีวุฒิ ม.3 ได้เงินช่วยเหลือสังคม ประเทศชาติ พระพุทธศาสนา ก่อเกิดสาธารณประโยชน์ เป็น วัด โรงเรียน โรงพยาบาล สถานศึกษา มหาวิทยาลัยสงฆ์ องค์กรการกุศล สงเคราะห์ผู้ยากไร้ อุปการะเยาวชนให้เล่าเรียน คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์ คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์และเงิน รวมๆ ไปกว่า 3,000 ล้านบาท กระจายอยู่ทั่วแผ่นดิน ทั้งที่คนรู้และไม่รู้
(เสียใจ) ที่หาเงินได้มากมาย แต่ไม่เคยเก็บสะสมสร้างฐานะ เพราะมัวแต่ช่วยผู้อื่น ไม่เคยช่วยพี่น้อง ช่วยสาธารณะจนตัวเองเดือดร้อน ผลตอบแทนกลับมาให้เสื่อมเสีย ไม่มีความดีและความจริงจากผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือไป จะเป็นจริงอย่างถาวร ดี ชั่ว ถูก ผิด ยึดติดใครไม่ได้
(คำสั่ง) หากเสียชีวิตที่พิษณุโลก ให้น้องชายช่วยขึ้นมาจัดการศพ ทำการเผาทันที ไม่ให้จัดพิธีการใดๆ ไม่ให้บำเพ็ญกุศล เพราะไม่ต้องการให้พี่น้องเดือดร้อน ไม่ต้องการให้คนอื่นต้องมายุ่งยาก ที่สำคัญ ผมทำบุญไว้เยอะแล้ว ไม่มีใครจะทำบุญให้ผมเท่าตัวผมทำตอนอยู่
(ท้ายสุด) ฝากบอกบุญ เชิญคนไทยไปบริจาคทรัพย์รับพระกริ่ง ซึ่งผมบริจาคไว้ 7.5 ล้านบาท ช่วยสร้างอาคารศูนย์ คณะแพทยศาสตร์ ม.ช. นะครับ
ฝากคำคมคิด จากบัณฑิต ม.3
“ดีที่สุด คือ หยุดอยาก…ดียาก คืออยากที่สุด”
สิทธิกร บุญฉิม
วันออกพรรษาปี 2558
ภาพ : www.kapook.com
ที่มา:http://social.tnews.co.th/content/167132/
0 comments