กระบะแหกด่านขนไอซ์ 300 ล้านบาท!! ตร.ตามรวบ-คัมรี่รถนำย้อนกลับมาดูเพื่อนถูกจับอีกคัน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ก.ย. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร นายวงศศิริ พรหมชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย พล.ต.ต.กิตติส...


เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 ก.ย. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร นายวงศศิริ พรหมชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วย พล.ต.ต.กิตติสัณห์ เดชสุนทรวัฒน์ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.วิศิษฐ์ ศุกรเสพย์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร และ ชุดสืบสวนสอบสวน ร่วมแถลงข่าวการจับกุม แก๊งขนยาไอซ์ล็อตใหญ่ที่สุด ในภาคใต้ สืบเนื่องจากช่วงเช้าของวันที่ 4 ก.ย.58 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ฉลาด พลนาการ รอง ผกก.สภ.เมืองชุมพร ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าด่านตรวจความมั่นคงประตูภาคใต้ บ้านพละ หมู่ 3 ถนนเพชรเกษม ตำบลเขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร นำกำลังออกตั้งด่านตรวจป้องกันปัญหาอาชญากรรม สิ่งผิดกฎหมาย และยาเสพติด

 กระทั่งมีรถยนต์กระบะอีซูซุ สีดำ แบบ 4 ประตู ทะเบียน 4กถ 3982 กรุงเทพมหานคร ขับผ่านมา จึงเรียกตรวจแต่ปรากฏว่าคนขับเร่งเครื่องฝ่าด่านหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังออกไล่ติดตามและตั้งจุดสกัด กระทั่งมาพบรถยนต์คันดังกล่าวกำลังขับย้อนสวนทางออกมาจากถนนซอยทางเข้า ของสำนักงานส่งเสริมเกษตรและสหกรณ์ที่ 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา หมู่ 1 ตำบลเขาไชยราช อ.ปะทิว ห่างจากด่านตรวจประมาณ 4 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงขับรถยนต์ขวาง ให้จอดรถ

 ตรวจสอบทราบชื่อคนขับ คือ นายสงกรานต์ อ้อมกอกุล อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนจนยอมเปิดปากรับสารภาพว่า ได้ขนยาไอซ์มากับรถยนต์และขับแหกด่านหลบหนีมาเลี้ยวรถเข้าไปในซอย ประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วนำยาไอซ์เข้าไปซ่อนไว้ในป่าละเมาะข้างทาง จากนั้นขับรถย้อนกลับออกมาจนถูกจับกุมดังกล่าว

 เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปยังจุดซ่อนของกลาง พบกระเป๋าเป้สะพายหลังจำนวน 5 ใบ ซุกอยู่ในพงหญ้าห่างจากถนนประมาณ 100 เมตร เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดดูมีห่อกระดาษฟอยล์สีเหลืองคล้ายกับถุงบรรจุใบชา ภายในกระเป๋าเป้ทั้ง 5 ใบ รวมจำนวน 100 ห่อ น้ำหนักห่อละ 100 กิโลกรัม เมื่อตรวจสอบพบเป็นยาไอซ์ทั้งหมด จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

 จากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ผู้ต้องหาที่ 1 คือ นายสงกรานต์ อ้อมกอกุล อายุ 32 ปี อยู่ตำบลอ้อมกอ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พร้อมของกลางที่ตำรวจยึดได้มี ยาไอซ์ 100 ห่อ รวมน้ำหนัก 100 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 3 ล้านบาท รวมมูลค่า 300 ล้านบาท รถยนต์กระบะอีซูซุ สีดำ สี่ประตู ทะเบียน 4กถ 3982 กรุงเทพมหานคร และรถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีขาว ทะเบียน ฌฟ 3964 กรุงเทพมหานคร

 นายสงกรานต์ให้การต่อว่า ได้รับจ้างขนยาไอซ์ทั้งหมดมาจากริมฝั่งโขง ด้าน อ.หนองหาร จ.อุดรธานี โดยมีรถยนต์ร่วมขบวนมาทั้งหมด 4 คัน เป็นรถนำทาง 3 คัน ส่วนรถยนต์คันที่ตนขับได้ขนยาไอซ์ขับตามหลังมาเป็นคันสุดท้าย แต่ละคันจะทิ้งช่วงห่างกันประมาณ 5 กิโลเมตร ได้รับค่าจ้างคันละ 2 แสนบาท รับเงินล่วงหน้ามาแล้วคันละ 1 แสนบาท เพื่อนำยาไอซ์ทั้งหมดไปส่งที่ จ.พัทลุง โดยรถนำทั้ง 3 คัน จะคอยโทรศัพท์แจ้งกันเป็นระยะๆ ว่าจุดไหนมีด่านหรือไม่มีด่าน หากเจอด่านตนก็จะจอดรถ รอให้เจ้าหน้าที่เลิกตรวจหรือหาทางเลี่ยงด่านตรวจ

 โดยรถนำคันแรกเป็นรถกระบะอีซูซุ สีดำ สี่ประตู ทะเบียนกรุงเทพมหานคร คันที่ 2 รถยนต์กระบะอีซูซุ ตอนครึ่งสีฟ้า ทะเบียนกรุงเทพมหานคร และคันที่ 3 รถเก๋งโตโยต้า คัมรี่สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งช่วงเช้าของวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา รถยนต์นำทางทั้ง 3 คัน ได้ขับผ่านด่านตรวจประตูภาคใต้ไปแล้ว และได้โทรศัพท์แจ้งมาที่ตนว่าไม่มีการตั้งด่านแต่อย่างใด

 ตนจึงขับมาตามปกติ แต่ปรากฏว่าขณะที่ตนขับมาถึงด่าน พบว่าตำรวจกำลังตั้งด่านตรวจพอดี ทำให้ตนตกใจจึงขับแหกด่านมาได้สักพัก แล้วเลี้ยวเข้าไปในซอย นำยาไอซ์ทั้งหมด เข้าไปซ่อนไว้ในป่าละเมาะข้างทาง จากนั้นรีบขับรถย้อนออกมาจนถูกตำรวจที่ไล่ติดตามมาจับกุมได้ดังกล่าว

 ขณะที่เจ้าหน้าที่คุมตัวนายสงกรานต์ผู้ต้องหาคนที่ 1 มาสอบสวนที่ด่านตรวจอยู่นั้น ได้มีรถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีขาว ทะเบียน ฌฟ 3964 กรุงเทพมหานคร ที่เป็นรถนำคันที่ 3 ตามที่นายสงกรานต์ให้การซัดทอด ได้ขับย้อนกลับมาที่ด่านตรวจเพื่อจะตามมาดูนายสงกรานต์ เนื่องจากไม่สามารถติดต่อกันได้

 เจ้าหน้าที่จึงสกัดรถให้หยุดทราบชื่อคนขับ คือ นายสมชาย ทาจำปา อายุ 32 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ตำบลน้ำอ้อ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ดผู้ต้องหารายที่ 2 ไว้ได้ คุมตัวไปสอบสวนให้การรับสารภาพว่า ร่วมแก๊งขนยาไอซ์มาด้วยกันกับนายสงกรานต์ โดยทำหน้าที่เป็นคนขับรถนำคันที่ 3 จริง ยาไอซ์ที่ตำรวจยึดได้น้ำหนักร่วม 100 กิโลกรัม

 นอกจากนั้น จากการสอบสวนขยายผล ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังรับสารภาพด้วยว่าได้ร่วมกันขนยาเสพติดจากฝั่งโขงมาแล้วถึง 5 เที่ยว ครั้งแรกขนยาบ้าจำนวน 2 แสนเม็ด ครั้งที่ 2 ยาไอซ์ 100 กิโลกรัม ครั้งที่ 3 ยาไอซ์ 50 กิโลกรัม ซึ่งทั้ง 3 ครั้ง นำไปส่งที่ อำเภอวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 19 ส.ค.58 ที่ผ่านมาขนยาไอซ์ จำนวน 80 กิโลกรัม ไปส่งที่ จ.พัทลุง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ขนยาไอซ์จำนวน 100 กิโลกรัม จนมาถูกตำรวจด่านประตูภาคใต้ที่ จ.ชุมพร จับกุมได้ดังกล่าว

ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1441610077

You Might Also Like

0 comments

Flickr Images

Close
Advertiser
loading...