เอาแล้ว !! แพท ณปภาโดนหนักแน่ เป็นดาราแต่ดันเป็นตัวอย่างไม่ดี ผ่านเฟซบุ๊ก

ช่วงนี้เหล่าดาราคนบันเทิงไม่ว่าจะทำอะไรแสดงออกผ่านโลกโซเชียล ก็มักจะถูกชาวเน็ตจับตามองกันเป็นพิเศษ จนหลายคนเกิดเป็นกระแสดราม่าอยู่เรื่อย...



ช่วงนี้เหล่าดาราคนบันเทิงไม่ว่าจะทำอะไรแสดงออกผ่านโลกโซเชียล ก็มักจะถูกชาวเน็ตจับตามองกันเป็นพิเศษ จนหลายคนเกิดเป็นกระแสดราม่าอยู่เรื่อยๆ อย่างล่าสุดหลังจากที่แฟนเพจเฟซบุ๊กร้านรับจัดฟันทำรีเทนเนอร์แห่งหนึ่ง ได้เผยแพร่ภาพโฆษณาผ่านทางแฟนเพจว่า "มาพิมพ์ฟันให้ ดาราสาวแพท ณปภา ถึงบ้านเลย" พร้อมแสดงภาพใบจดทะเบียนพาณิชย์ ผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ในทางทันตกรรม ซึ่งหลังจากภาพและเรื่องราวนี้ได้เผยแพร่ออกไปชาวเน็ตก็ได้เข้ามาแชร์และแสดงความคิดเห็นทำนองว่า สาวแพททำผิดที่ช่วยโปรโมทโฆษณาจัดฟันเถื่อน



ซึ่งทางด้าน นพ.วิทวัส ศิริประชัย ผอ.โรงพยาบาลเกาะลันตา หรือ จ่าพิชิต เจ้าของแฟนเพจชื่อดัง Drama-addict ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึง แพท ณปภาว่า ไม่รู้ว่าโดนแอบอ้างชื่อเพื่อโฆษณาหรือไม่ โดยปกติแล้วรีเทนเนอร์จะใส่หลังการจัดฟันเพื่อให้ฟันคงสภาพไม่กลับที่เดิมระยะหนึ่ง คนที่ทำรีเทนเนอร์ใส่ต้องเป็นหมอฟันที่เรียนจัดฟันมาเป็นอย่างดี หากเจอวัสดุด้อยคุณภาพ อาจเสี่ยงเกิดการติดเชื้อได้ ตั้งแต่เหงือกอักเสบ,ฟันผุ จนถึงขั้นกรามเน่า หรือลิ้นหัวใจรั่ว






นอกจากนี้ จ่าพิชิต ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดฟันรีเทนเนอร์เถื่อนแบบนี้ผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค คำสั่งคณะกรรมการที่ 1/2549 ห้ามขายสินค้าลวดจัดฟันแฟชั่น หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามมาตรา 56 ต้องระวางจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ลักลอบดำเนินการจัดฟันแฟชั่นจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.วิชาชีพทันตกรรม พ.ศ. 2537 มาตรา 28 ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดที่มิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม ทำการประกอบวิชาชีพทันตกรรม หรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ





ทั้งนี้สายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามไปยัง ทันตแพทย์หญิงนฤมล ทวีเศรษฐ์ ที่ปรึกษาสมาคมทันตแพทย์จัดฟันแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงประเด็นดังกล่าว 4 กรณีว่า

1.ร้านค้าในเฟซบุ๊กถือว่าผิดกฎหมาย คล้ายกับเป็นหมอเถื่อน การพิมพ์ปากประชาชน ถือว่าเป็นสิ่งที่ผิด เพราะการพิมพ์ปากถือเป็น พรบ.วิชาชีพทันตกรรม ต้องมีใบอนุญาตประกอบการประกอบวิชาชีพทันตกรรม ต้องผ่านการอบรมเผื่อให้มีความรู้ความสามารถทำได้จริง โดยไม่มีอันตรายต่อผู้ป่วย ซึ่งจะกระทำได้โดยทันตแพทย์เท่านั้น  

2.การใส่รีเทนเนอร์ จะใส่เมื่อทันตแพทย์จัดฟันแนะนำให้ใส่เท่านั้น เพื่อควบคุมสภาพฟันหลังจากจัดฟันเสร็จแล้ว ต้องเป็นฟันตรงเรียบเท่านั้น ไม่มีฟันเก เมื่อไหร่ก็ตามใส่รีเทนเนอร์ไปที่ฟันเก รีเทนเนอร์นั้นอาจส่งผลเสียต่อเหงือกและฟัน ทำให้ ฟันผุ ปากเหม็น ต่างๆตามมา ประชาชนทั่วไทยจะใส่รีเทนเนอร์เมื่อจำเป็นเท่านั้น ไม่ใช่ใครก็ใส่ได้ 

3.ข้อเสียของการพิมพ์ปากโดยไม่ใช่ทันตแพทย์คือ เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกาย เพราะมือไม่สะอาด เพราะเวลาทันตแพทย์จะทำฟันต้องอบฆ่าเชื้อโรคอย่างดี เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ทั้ง วัณโรค เอดส์ หรือ​ไวรัสตับอักเสบ 

4.การโฆษณาในโซเชียลในสิ่งที่สื่อให้ประชาชนให้เข้าใจผิด อาจจะทำให้ผิดกฎหมาย มีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ได้ และเมื่อดารา หรือเน็ตไอดอล รู้ว่ามีข้อเสีย ก็ไม่ควรจะทำ




ขณะที่ นายกทันตแพทยสภา เคยให้ข้อมูลกับไทยรัฐออนไลน์ เมื่อปี 2556 (สั่งแบน.."ลวดดัดฟัน"เถื่อน ขายเกลื่อน..ออนไลน์) ว่า ผลิตภัณฑ์เหล็กดัดฟันแฟชั่นที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ได้มีการรับรองเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะที่จำหน่ายผ่านเว็บไซต์และให้ผู้ซื้อนำไปติดเอง โดยที่ไม่มีความรู้ด้านทันตกรรม จะทำให้ติดไม่ถูกตำแหน่ง อาจส่งผลให้ฟันเคลื่อนที่ การเรียงตัวของฟันผิดรูปร่าง การสบฟันผิดปกติ ส่งผลต่อการเคี้ยวอาหาร และในระยะยาวอาจมีผลต่อสุขภาพและอาจทำให้ใบหน้าผิดรูปไปจากปกติ และว่าการจัดฟันแฟชั่น ไม่ใช่การรักษาทางทันตกรรม แต่เป็นการพยายามใส่เครื่องมือเลียนแบบการจัดฟันแบบติดแน่นที่ทันตแพทย์ใช้ในการรักษาผู้ป่วย มีจุดประสงค์เพื่อความสวยงาม โก้เก๋ ทันสมัย ทั้งนี้ทันตแพทย์จะไม่ทำการจัดฟันแฟชั่นทุกกรณี เพราะการจัดฟันแฟชั่นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ประกอบโรคศิลปะ หากจัดฟันโดยไม่มีข้อบ่งชี้ อาจต้องถูกถอนใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ และผู้ที่ไปทำอาจเกิดอันตรายโดยไม่คาดคิดได้



ส่วนด้าน นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสคบ. เปิดเผย เมื่อปี 2556 เช่นกันว่า ผู้จำหน่ายลวดดัดฟันแฟชั่น ถือเป็นผู้กระทำผิด หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีเป็นผู้ผลิตเพื่อขายหรือเป็นผู้สั่ง หรือนำเข้าเพื่อขายมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำผิดกฎหมายได้ที่สายด่วน 1166 ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา : สำนักข่าวไทย
ที่มา: http://www.siamupdate.com/news-177843

You Might Also Like

0 comments

Flickr Images

Close
Advertiser
loading...